เลื่อยไฟฟ้ามีอยู่ กี่ประเภทคือใช้งานอย่างไร และมีวิธีเลือกซื้ออย่างไร

เลื่อยไฟฟ้าอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับช่างไม้หรือบุคคลทั่วไปที่ต้องการใช้เลื่อยไฟฟ้าในการตัดไม้เพื่อทำการก่อสร้างหรือเกี่ยวกับไม้ สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เลื่อยไฟฟ้าทำงานได้นั้นก็คือ มอเตอร์ไฟฟ้าและใบเลื่อย มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำให้ใบเลื่อยทำงาน เคลื่อนไหวขึ้นลงด้วยความถี่ที่สูง

 เลื่อยไฟฟ้ามีอยู่ 2 ประเภทคือ เลื่อยไฟฟ้าแบบไร้สายและเลื่อยไฟฟ้าแบบมีสาย ทั้งสองประเภทนี้มีความเร็วในการทำงานที่แตกต่างกันยิ่งมอเตอร์ในเลื่อยไฟฟ้ามีกำลังมากก็สามารถตัดวัสดุที่มีความแข็งได้ง่ายขึ้น เลื่อยไฟฟ้าแบบไร้สายมีน้ำหนักมากพอสมควรเพราะต้องใส่แบตเตอรี่ลงไปในเครื่อง แต่การทำงานแบบไร้สายจะสะดวกกว่า

 ปัจจุบันเลื่อยไฟฟ้ามีการผลิตและออกแบบมาให้เลือกใช้งานหลายรุ่น หลายแบบทั้งเลื่อยชักไฟฟ้า เลื่อยวงเดือน เลื่อยโซ่ไฟฟ้า เลื่อยฉลุไฟฟ้า ซึ่งเลื่อยไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีทั้งแบบมีสายและไร้สาย ลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป  capitallaboratory

เลื่อยไฟฟ้าจะมีอยู่ด้วยกัน  2 ประเภท

 1.เลื่อยไฟฟ้าแบบไร้สาย

เป็นเลื่อยไฟฟ้า ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ ชาร์จไฟบ้านได้ปกติ  โดยส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ลิเธี่ยม-ไอออนชาร์จ เพราะสามารถชาร์จได้เร็ว มีความหนาแน่นของพลังงานที่สูง  ไม่มีการคายประจุเอง สามารถใช้งานได้ยาวนาน  เลื่อยไฟฟ้าแบบไร้สายใช้งานได้สะดวกกว่า เพราะแบบไร้สายไม่ต้องใช้สายไฟ และไม่ต้องหาเต้าเสียบ ทำให้สามารถนำไปใช้นอกบ้านได้ ใช้งานในที่ที่ไม่มีไฟฟ้าหรือการทำงานในที่แคบหรือที่สูงได้ แต่จะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก

2.เลื่อยไฟฟ้าแบบมีสาย

ซึ่งจะใช้งานง่ายแค่เสียบปลั๊กก็สามารถใช้งานได้ทันทีและเลื่อยไฟฟ้าแบบมีสายส่วนใหญ่จะซื้อใช้ภายในบ้าน น้ำหนักเบา

เลื่อยไฟฟ้าสามารถจำแนกออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

1.เลื่อยฉลุไฟฟ้า ( Electric Jig Saw) เป็นเลื่อยที่สำหรับเจาะงานไม้ เจาะเหล็ก หรือตกแต่งชิ้นงานต่างๆ

2.เลื่อยวงเดือน (Circular Saw) เป็นเลื่อยที่ใช้สำหรับตัดงานไม้ ตัดแผ่นวัสดุสำเร็จรูป พลาสติก เป็นต้น

3.แท่นเลื่อยวงเดือน (Table Saw) ใช้สำหรับตัดแผ่นไม้ที่มีขนาดใหญ่ให้มีลักษณะตามต้องการ เช่น การเซาะร่อง การบากชิ้นงานและการตัดเฉียง เป็นต้น

4.เลื่อยตัดปรับมุม (Miter Saw) ใช้สำหรับการตัดไม้ที่ต้องประกอบชิ้นส่วน เช่น ตัดเพื่อทำวงกบหน้าต่างหรือทำกรอบรูป เป็นต้น

5.เลื่อยชักไฟฟ้า (Reciprocating Saw) ใช้สำหรับงานก่อสร้างในการเจาะช่องเพื่อติดตั้งหน้าต่าง ช่องแอร์ หรืองานประปา เป็นต้น

วิธีใช้งานของเลื่อยไฟฟ้า

ศึกษาคู่มือการใช้งานเลื่อยไฟฟ้าให้ละเอียดก่อนใช้งานและตรวจสภาพความสมบูรณ์ของตัวเครื่องและใบเลื่อยให้พร้อมใช้งาน ผู้ใช้ต้องสวมถุงมือและแว่นตานิรภัยเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนของเครื่องและป้องกันอุบัติเหตุจากเศษไม้ ฝุ่นกระเด็นเข้าตาผู้ใช้งานในขณะปฏิบัติงานได้ จากนั้นทำการเปิดสวิตช์เดินเครื่องเลื่อยไฟฟ้า จับเลื่อยไฟฟ้าโดยใช้มือทั้งสองข้างจับให้แน่น จับยึดวัสดุให้แน่นด้วยมือหรือใช้อุปกรณ์จับยึดแทนการใช้มือจับโดยให้ฟันของเลื่อยชี้ไปทิศทางของการเลื่อยเสมอ เริ่มเลื่อยทำมุมกับผิวงานประมาณ 10 องศา แล้วค่อยปรับระดับความแรงให้โครงเลื่อยเลื่อนลงช้า ๆ จนกว่าเลื่อยจะตัดชิ้นงานขาดก็จะทำให้ได้ชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพ

ข้อควรระวังในการใช้เลื่อยไฟฟ้า

  • ต้องตรวจสอบความตึงของโซ่ใบเลื่อยก่อนใช้งาน ถ้าตึงน้อยเกินไปอาจส่งผลให้เกิดการทำงานผิดพลาด
  • ตรวจสอบว่ามีสารหล่อลื่นหล่อเลี้ยงโซ่ใบเลื่อย ถ้าไม่มีอาจส่งผลให้เกิดการทำงานผิดพลาด
  • ตรวจสอบความหนา (เส้นผ่านศูนย์กลาง) ของท่อนไม้ที่ต้องการตัด
  • ตรวจสอบความยาวการตัดของเลื่อยโซ่
  • ให้เลือกแบบใช้ไฟฟ้า แบบรีชาร์จแบตเตอรี่ หรือแบบเครื่องยนต์

วิธีเลือกซื้อเลื่อยไฟฟ้า

  1. ก่อนการเลือกซื้อคุณต้องรู้ก่อนว่าเราจะนำเลื่อยไฟฟ้ามาใช้ประโยชน์ในด้านใดเพื่อทำงานแบบไหน และเราจะต้องเลือกเลื่อยไฟฟ้าแบบมืออาชีพหรือแบบธรรมดา เพราะเลื่อยไฟฟ้ามีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
  2. การใช้เลื่อยไฟฟ้าต้องดูในเรื่องของกฎหมายด้วยเพราะเลื่อยทุกอย่างจะต้องมีการจดทะเบียนและไม่ต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้อง
  3. หากเราไม่เคยใช้เลื่อยมือไฟฟ้ามาก่อนก็ควรเลือกเลื่อยที่มีน้ำหนักเบาเพราะเราจะสามารถควบคุมเลื่อยได้ง่าย และที่สำคัญปลอดภัยกับการใช้งานอีกด้วย
  4. ราคาของเลื่อยไฟฟ้านั้นก็มีผลต่อคุณภาพของเลื่อย เพราะถ้ามีราคาถูกมากเกินไปอายุการใช้งานก็อาจจะไม่ยาวนานและถ้าราคาแพงมากเกินไป แต่เราไม่ได้ใช้งานอะไรมากมายก็เสียเงินซื้อของแพงแต่ไม่ค่อยใช้งาน เราควรเลือกให้ถูกต้องตามความต้องการของเราให้มากที่สุด บางครั้งของที่มีราคาถูกอาจจะดีกว่าของที่มีราคาแพงก็เป็นได้ มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเรา และการใช้งาน ฉะนั้นควรเลือกแบบราคากลาง ๆ จะได้เลื่อยแบบที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคาและการใช้งาน